แนวทางการเล่น รูเล็ต การวางเดิมพันแบบไหนถึงจะได้อัตราการจ่ายที่สูง
1.ต้นกำเนิดของรูเลตมาจากไหน มีสถิติผู้คนเข้ามากเท่าไหร่
ต้นกำเนิดของรูเล็ตนั้นยังไม่ชัดเจน แต่มีทฤษฎีหลักอยู่ 2 ทฤษฎี:
- ทฤษฎีฝรั่งเศส: เชื่อกันว่ารูเลตมีต้นกำเนิดในฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17 คำว่า “รูเลต” มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า “roulette” ซึ่งแปลว่า “วงล้อเล็ก”
- ทฤษฎีอิตาลี: เชื่อกันว่ารูเลตมีต้นกำเนิดในอิตาลีในศตวรรษที่ 18 เกม “Biribi” ของอิตาลีมีความคล้ายคลึงกับรูเลตมาก
รูเลตในยุคแรกๆ
- วงล้อรูเลตมี 38 ช่อง
- ช่องหมายเลข 1-36 สลับสีแดงและดำ
- ช่อง 0 สีเขียว
- ช่อง 00 สีเขียว (เพิ่มในศตวรรษที่ 19)
รูเลตในปัจจุบัน
- มี 2 รูปแบบหลัก: รูเลตแบบอเมริกัน (38 ช่อง) และรูเลตแบบยุโรป (37 ช่อง)
- เล่นได้ทั่วโลก
- เป็นเกมคาสิโนยอดนิยม
สถิติผู้เล่นรูเลต
- ยากจะหาสถิติผู้เล่นรูเลตทั่วโลกที่แน่นอน
- คาสิโนออนไลน์บางแห่งเปิดเผยสถิติผู้เล่น
- ตัวอย่าง: คาสิโนออนไลน์แห่งหนึ่งมีผู้เล่นรูเลต 10 ล้านคนในปี 2022
สรุป
- ต้นกำเนิดของรูเลตยังไม่ชัดเจน
- รูเลตเป็นเกมคาสิโนยอดนิยม
- ยากจะหาสถิติผู้เล่นรูเลตทั่วโลกที่แน่นอน
2. รูเลต ทฤษฎีฝรั่งเศส ต่างจาก ทฤษฎีอิตาลี อย่างไร
ความแตกต่างระหว่างทฤษฎีฝรั่งเศสและทฤษฎีอิตาลีเกี่ยวกับต้นกำเนิดของรูเล็ต
ทฤษฎีฝรั่งเศส
- เชื่อกันว่ารูเลตมีต้นกำเนิดในฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17
- คำว่า “รูเลต” มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า “roulette” ซึ่งแปลว่า “วงล้อเล็ก”
- รูเลตในยุคแรกๆ มี 38 ช่อง
- ช่องหมายเลข 1-36 สลับสีแดงและดำ
- ช่อง 0 สีเขียว
ทฤษฎีอิตาลี
- เชื่อกันว่ารูเลตมีต้นกำเนิดในอิตาลีในศตวรรษที่ 18
- เกม “Biribi” ของอิตาลีมีความคล้ายคลึงกับรูเลตมาก
- Biribi เล่นบนวงล้อที่มี 70 ช่อง
- ช่องหมายเลข 1-69
- ช่อง “Biribi” 1 ช่อง
ความแตกต่าง
- ทฤษฎีฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับคำศัพท์ “รูเลต” มากกว่า
- ทฤษฎีอิตาลีให้ความสำคัญกับความคล้ายคลึงระหว่างรูเลตกับ Biribi มากกว่า
ข้อสรุป
ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าทฤษฎีใดถูกต้อง
ทั้งสองทฤษฎีมีข้อดีและข้อเสีย
เป็นที่น่าสนใจที่จะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทั้งสองทฤษฎี
3. รูเลตในยุคแรกๆ ต่างจาก รูเลตในปัจจุบัน อย่างไร มีอะไรที่แตกต่างกัน
รูเล็ตในยุคแรกๆ ต่างจาก รูเลตในปัจจุบัน อย่างไร
รูเล็ตในยุคแรกๆ มีความแตกต่างจากรูเลตในปัจจุบันหลายประการ ดังนี้
จำนวนช่อง
- รูเลตในยุคแรกๆ มี 38 ช่อง ประกอบด้วยหมายเลข 1-36 สลับสีแดงดำ และช่อง 0 สีเขียว
- รูเลตในปัจจุบันมี 2 รูปแบบหลัก:
- รูเลตแบบอเมริกัน: มี 38 ช่อง เพิ่มช่อง 00 สีเขียว
- รูเลตแบบยุโรป: มี 37 ช่อง ไม่มีช่อง 00
การออกแบบ
รูเลตในยุคแรกๆ วงล้อและลูกบอลทำจากไม้
รูเลตในปัจจุบัน วงล้อและลูกบอลทำจากวัสดุที่หลากหลาย เช่น พลาสติก โลหะ
วิธีการเล่น
รูเลตในยุคแรกๆ กฎกติการะบุไว้ไม่ชัดเจน
รูเลตในปัจจุบัน กฎกติกาชัดเจน ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันได้หลากหลาย
ความนิยม
รูเลตในยุคแรกๆ เล่นในวงจำกัด
รูเลตในปัจจุบัน เป็นเกมคาสิโนยอดนิยม เล่นได้ทั่วโลก
ตัวอย่าง
รูเลตแบบ Blaise Pascal: มี 38 ช่อง เพิ่มช่อง 0 และ S (สำหรับ Single)
รูเลตแบบ François Blanc: มี 37 ช่อง ไม่มีช่อง 00
สรุป
รูเลตมีวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน
รูเลตในปัจจุบันมีรูปแบบที่หลากหลาย เล่นง่าย และได้รับความนิยม
4.วิธีการเล่น รูเลต แบบมืออาชีพ ควรทำอย่างไร
วิธีการเล่นรูเล็ตแบบมืออาชีพ
- ศึกษากฎกติกา:
- เข้าใจรูปแบบของรูเลต (ยุโรป อเมริกัน)
- เข้าใจประเภทการเดิมพัน
- เข้าใจอัตราการจ่าย
- วางแผนการเดิมพัน:
- กำหนดงบประมาณ
- กำหนดเป้าหมาย
- เลือกกลยุทธ์การเดิมพัน
- ควบคุมอารมณ์:
- เล่นอย่างมีสติ
- ไม่เล่นเพื่อเอาคืน
- หยุดเล่นเมื่อถึงเป้าหมาย
- เลือกคาสิโนที่น่าเชื่อถือ:
- ตรวจสอบใบอนุญาต
- ตรวจสอบรีวิว
- เปรียบเทียบอัตราการจ่าย
กลยุทธ์การเดิมพัน
- Martingale: เพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าเมื่อแพ้
- Fibonacci: เพิ่มเงินเดิมพันตามลำดับ Fibonacci
- D’Alembert: เพิ่มเงินเดิมพัน 1 หน่วยเมื่อแพ้ ลดเงินเดิมพัน 1 หน่วยเมื่อชนะ
- Paroli: เพิ่มเงินเดิมพัน 1 หน่วยเมื่อชนะ ลดเงินเดิมพัน 1 หน่วยเมื่อแพ้
ตัวอย่าง:
เลือกรูเลตแบบยุโรป
เดิมพันแบบ Outside Bets (แดง/ดำ คู่/คี่ สูง/ต่ำ)
ใช้กลยุทธ์ Martingale
5.ขอแนวทาง การวางเดิมพัน รูเลต แบบไหนถึงจะได้อัตราการจ่ายที่สูง และคุ้มค่ากว่า
แนวทางการวางเดิมพันรูเลตแบบได้อัตราการจ่ายสูง
- เลือกรูเลตแบบยุโรป: รูเลตแบบยุโรปมีช่อง 37 ช่อง ไม่มีช่อง 00
- เดิมพันแบบ Outside Bets:
- แดง/ดำ: อัตราการจ่าย 1:1 โอกาสชนะ 47.37%
- คู่/คี่: อัตราการจ่าย 1:1 โอกาสชนะ 47.37%
- สูง/ต่ำ: อัตราการจ่าย 1:1 โอกาสชนะ 47.37%
- ใช้กลยุทธ์การเดิมพัน:
- Martingale: เพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าเมื่อแพ้
- Fibonacci: เพิ่มเงินเดิมพันตามลำดับ Fibonacci
- D’Alembert: เพิ่มเงินเดิมพัน 1 หน่วยเมื่อแพ้ ลดเงินเดิมพัน 1 หน่วยเมื่อชนะ
- Paroli: เพิ่มเงินเดิมพัน 1 หน่วยเมื่อชนะ ลดเงินเดิมพัน 1 หน่วยเมื่อแพ้
- วางเดิมพันแบบ Inside Bets เพิ่มเติม:
- เลขเต็ง: อัตราการจ่าย 35:1 โอกาสชนะ 2.70%
- คอลัมน์: อัตราการจ่าย 2:1 โอกาสชนะ 13.51%
- โหล: อัตราการจ่าย 3:1 โอกาสชนะ 12.84%
- บริหารเงินทุน:
- กำหนดงบประมาณ
- เล่นอย่างมีสติ
- หยุดเล่นเมื่อถึงเป้าหมาย
ตัวอย่าง:
- เลือกรูเลตแบบยุโรป
- เดิมพันหลักแบบ Outside Bets (แดง/ดำ)
- ใช้กลยุทธ์ Martingale
- เดิมพันแบบ Inside Bets เพิ่มเติม (เลขเต็ง)
6. การแทงช่องสี ของรูเลต ต่างจากการแทงตัวเลขแบบไหน อัตราการจ่ายเท่ากันหรือไม่
การแทงช่องสี ของรูเลต หมายถึง การแทงว่าลูกบอลจะหยุดลงที่ช่องสีอะไร โดยมี 2 สี คือ แดง และ ดำ
การแทงตัวเลข หมายถึง การแทงว่าลูกบอลจะหยุดลงที่ช่องหมายเลขอะไร
โอกาสชนะ
การแทงช่องสี: มีโอกาสชนะ 47.37%
การแทงตัวเลข: มีโอกาสชนะ 2.70% (สำหรับเลขเต็ง)
อัตราการจ่าย
การแทงช่องสี: อัตราการจ่าย 1:1
การแทงตัวเลข: อัตราการจ่าย 35:1 (สำหรับเลขเต็ง)
สรุป
การแทงช่องสี มีโอกาสชนะมากกว่า แต่ได้เงินรางวัลน้อยกว่า
การแทงตัวเลข มีโอกาสชนะน้อยกว่า แต่ได้เงินรางวัลมากกว่า
ตัวอย่าง
แทงช่องสีแดง: วางเดิมพัน 100 บาท ชนะ ได้เงิน 200 บาท
แทงเลข 1: วางเดิมพัน 100 บาท ชนะ ได้เงิน 3,600 บาท
7.ข้อดีและข้อเสีย ในการวางเดิมพันรูเลต และให้เล่นอย่างมีสติ
ข้อดีและข้อเสียในการวางเดิมพันรูเลต
ข้อดี
ความตื่นเต้น: รูเลตเป็นเกมที่เล่นง่าย ตื่นเต้น เร้าใจ
โอกาสชนะ: มีโอกาสชนะหลายแบบ ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเดิมพัน
เงินรางวัล: มีโอกาสได้เงินรางวัลก้อนใหญ่
ข้อเสีย
ความเสี่ยงสูง: รูเลตเป็นเกมที่มีความเสี่ยงสูง โอกาสเสียเงินมีมากกว่า
ความได้เปรียบของเจ้ามือ: เจ้ามือมีอัตราการได้เปรียบเสมอ
การเสพติด: เกมรูเลตสามารถสร้างความเสพติดได้
เล่นอย่างมีสติ
- กำหนดงบประมาณ
- เล่นอย่างมีสติ
- หยุดเล่นเมื่อถึงเป้าหมาย
- ไม่เล่นเพื่อเอาคืน
- ศึกษากฎกติกาและกลยุทธ์
- เลือกคาสิโนที่น่าเชื่อถือ
ตัวอย่าง
- กำหนดงบประมาณ 1,000 บาท
- เล่นเดิมพันแบบ Outside Bets (แดง/ดำ)
- หยุดเล่นเมื่อได้กำไร 500 บาท
- ไม่เล่นต่อเมื่อเสียเงิน 1,000 บาท
Tags : คาสิโนออนไลน์, รูเล็ต